50 ชั่วโมงกับประสบการณ์การใช้งาน Nokia Lumia 920 ที่เป็นมือถือเรือธงตัวล่าสุดของโนเกียในตอนนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณความใจดีของบริษัทโนเกียที่ทำให้ผมได้ทดลองใช้งานสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ไปฟรีๆถึง 3วัน 2คืนกันเลยทีเดียว (20 – 22 พย. 2555) ในโครงการของ Nokia Test-Drive ครับ หลายคนที่อาจคิดว่า Nokia มันสู้คนอื่นไม่ได้แล้ว อยากให้ลองรับฟังสิ่งใหม่ๆเหล่านี้ก่อน เพราะทุกอย่างในโลกสามารถปรับปรุง แก้ไขให้ดีขึ้นได้ บางคนยังไม่รู้เลยว่ามือถือรุ่นนี้มันใช้ Windows Phone 8 ที่ปรับปรุงความสามารถแบบพลิกฝ่ามือจนเราไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ลองเปิดใจและศึกษาดูครับ 😉
Get Lumia 920
วันที่ 20 พย. 2555 ผมไปรับเครื่องทดสอบนี้ที่ Nokia shop สาขา Siam Paragon ครับ ครั้งแรกที่รู้สึกประทับใจคือ มีเครื่องสีดำให้ทดสอบด้วยยย (ใช่เรื่องประทับใจมั้ย?) พนักงานมีให้เลือกระหว่าง ดำ กับ แดง ครับ แน่นอนว่า เคยเห็นของจริงมาก่อนแล้วทั้งดำและแดง และมีความชอบส่วนตัวกับสีดำตั้งแต่เห็นแล้วครับ เรียบ หรู ดูดี มีสไตล์ 😀 ปล. รีวิวนี้ ผมจะเน้นเรื่องกล้องเป็นหลักนะครับ เพราะฉะนั้น สเปคทั่วๆไปก็หาอ่านได้จากที่อื่นครับ 😉
คุณสมบัติเด่นของ Lumia
- 8.7 เมกะพิกเซล เซนเซอร์กล้อง (ความละเอียดกล้องหลัก)
- เทคโนโลยี PureView™ กล้องถ่ายรูป
- 4.5 ” ขนาดจอแสดงผล
- Snapdragon™ S4 ชื่อหน่วยประมวลผล
- 10.8 ชม. ระยะเวลาสนทนา (3G)
- 460.0 ชม. Standby time (3G)
- 74.0 ชม. ระยะเวลาเล่นเพลง (สูงสุด)
เซ็นสัญญาให้เรียบร้อย
ให้มาแค่เครื่องกับที่ชาร์ตและใบสัญญา
ถ่ายรูปรับเป็นที่ระทึกหน่อย 😀
ความรู้สึกครั้งแรกที่จับและประทับใจก็คือ เครื่องตอบสนองเร็ว วัสดุดูทนทานสมชื่อ(แอบหนัก) หน้าจอคมชัดมากกก
How does it work
ต่อไปนี้ก็ได้เวลาทดสอบละ ว่า “มันดีจริงหรือ?” เริ่มแรกด้วยการเชื่อมต่อบริการทุกอย่างเข้าด้วยกันการตั้งค่าเข้าสู่ระบบบัญชีของไมโครซอฟท์ (เนื่องจากผมเชื่อม Facebook, twitter ไว้กับบัญชีไมโครซอฟท์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องเพิ่มรายละเอียดบัญชี Facebook, twitter ทีหลัง แต่ใครมี Social อื่นนอกจากนี้แล้วไมโครซอฟท์รองรับ ก็สามารถเพิ่มได้เช่นกัน) ซึ่งตรงนี้จะใช้เวลาสักพักเพื่อ sync ข้อมูลทุกอย่างมาที่โทรศัพท์ของเราครับ (แนะนำให้ใช้ Wi-Fi ด่วนๆ) เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็จะได้หน้าตาแบบนี้
Me หรือแปลเป็นไทยว่า “ฉัน” #แปลเพื่อ จะรวมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเรา ที่แอพนี้ (ไม่รู้จะเรียกมันว่าไร) จะเก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเรา หน้าแรกเราจะโพสข้อความสเตตัสไปยัง Social Network ที่เราได้ sync ไว้ได้ #Xperiaทำได้ หน้าถัดไปจะเป็นศูนย์รวม Notification ของ Social Network เราทั้งหมดที่ได้ Sync ไว้ #ชอบมากกก และจะแจ้งเตือนที่หน้า Home ด้วยความเรียบง่ายและสวยงามตลอดเวลา #ชอบอีกแล้วว ส่วนหน้าถัดไปอื่นๆ จะไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร
ถ้าใครได้ใช้ Windows 8 มาสักพักแล้ว คงคุ้นเคยกับแอพ People เป็นอย่างดี ซึ่งที่ตรงนี้ ผมรู้สึก “ประทับใจมาก” ที่เพื่อนใน Social Network และรายชื่อโทรศัพท์ของเราจะมาอยู่ในที่เดียวกันหมด #Androidก็ทำได้ #iOSได้มั้ง? แต่ระบบปฏิบัติการนี้(Windows Phone 8) ที่ผมประทับใจอีกคือ เราสามารถดู Social network แบบเป็น Timeline ของรายชื่อคนนั้นๆผ่านแอพนี้ได้เลย
แล้วถ้าใครชื่นชอบ อยากติดตาม Social Network คนไหนเป็นพิเศษ สามารถ Pin คนนั้นมาไว้ที่หน้า Home ได้แบบนี้ครับ
ปรับขนาดได้ด้วย
ใส่มาเป็นกลุ่มก็ได้นะ
เปรียบเทียบกล้อง Xperia S VS Lumia 920
ผมขอไม่พูดถึง ความเทพ ของระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 มากนักนะครับ #ขนาดนั้นเชียววว #อวยสุดๆ (กำลังจะออก 8.1 แล้ว) เพราะแต่ละคนน่าจะเคยอ่านผ่านตาหรือศึกษาได้จากรีวิวที่อื่นๆอยู่แล้ว ผมแนะนำเว็บ www.thailivetile.com ครับ 😀 เรามาทดสอบความเทพของ “กล้อง” กันดีกว่าครับ 😀 เนื่องจากผมใช้มือถือของ Sony Xperia S อยู่แล้ว จึงอยากมาทดสอบแบบจัดหนักและเปรียบเทียบกันให้เห็นๆไปเลยว่า แบบนี้ดี/ไม่ดีอย่างไร อิอิ * โปรดใช้วิจารณญานในการชมภาพ** ภาพทุกภาพ ไม่ได้ผ่านการตกแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด และใช้โหมด Auto ทั้งหมด ในการถ่ายทั้งสองกล้อง***ภาพใหญ่หน่อยนะครับ อาจเสียเวลาโหลดนาน
Xperia S Spec
- 12.1 megapixel camera with LED flash and Auto focus
- Sony’s Exmor™ R for mobile CMOS sensor
- 16x digital zoom
- f/2.4 Aperture
- HD video recording (1080p)
- 3D Sweep Panorama
- Image playback, supported formats: BMP, GIF, JPEG, PNG, WBMP
- Image capture, supported format: JPEG
- Video playback and recording, supported formats: 3GPP, MP4
- Accelerated Adobe Flash Video
- Front-facing camera (1.3 megapixel, 720p)
- Face recognition and Smile Shutter™
Lumia 920 Spec
- Camera sensor (main camera resolution): 8.7 megapixels
- Flash type: Short pulse high power dual LED
- Carl Zeiss Tessar lens
- Camera resolution: 3552 x 2448 pixels
- Auto focus with two-stage capture key
- f/2.0 Aperture
- Camera digital zoom: 4 x
- Camera focal length: 26.0 mm
- Flash operating range: 3.0 m
ถ่ายทั่วไป
ต้องขอขอบคุณสาวสวยผู้ใจดีเป็นแบบให้ซะหน่อย น้องต้นอ้อ จ้าา แต้งกิ้วมากฮะ ^^”
ถ่ายกล้องหน้า 😀
ตัวผมเอง แอบลดขนาดหน่อย ตกใจหน้าตัวเอง 5555+
ถ่ายแบบ Macro
ถ่ายกลางคืน
เนื่องจากตัว Lumia 920 สามารถปรับ ISO ได้นะครับ ผมก็เลยลองปรับเองดู เพื่อลองดูความแตกต่าง เป็นแบบนี้ครับ
เปรียบเทียบวิดีโอ Xperia S VS Lumia 920
ทีเด็ดสำคัญและเหมือนเป็นท่าไม้ตายสำหรับ Lumia 920 เลยก็คือการถ่ายวิดีโอ ที่มีฟังก์ชันป้องกันการสั่นไหวได้ดีเลยครับ
กลางวัน
กลางคืน
ผมขอสรุปเป็นเรื่องๆดังนี้นะครับ
- ตัวเครื่อง : ครั้งแรกที่จับ รู้สึก หนา ใหญ่ หนัก (ย้ำอีกทีว่าหนัก เพราะเมื่อกลับมาใช้ Xperia S เหมือนเดิมแล้วรู้สึกว่าเบา+บางกว่ามากเลย) เหมาะกับผู้ชายมากกว่า และวัสดุแข็งแรงมาก ไม่เป็นรอยง่าย โดยเฉพาะหน้าจอ ทน ถึก มากๆครับ ใช้คัทเตอร์กรีดๆยังไม่เป็นรอย(พนักงานลองให้ดูที่ร้านนะ) แต่ เครื่องร้อนง่าย แม้เล่นเน็ตต่อ Wi-Fi ธรรมดา
- แบตเตอร์รี่ : ก็ถือว่าหมดง่ายเท่าสมาร์ทโฟนทั่วๆไปในตลาด แต่ก็ไม่หมดเร็วจนเกินไป อยู่ได้ 1 วันเต็มๆครับ
- ระบบปฏิบัติการ : Windows Phone 8 สำหรับผมแล้วเหมือนนำข้อดีของ Android และ iOS มารวมกันไว้ในที่เดียว โดยเฉพาะ 8.1 ที่กำลังจะมาในอนาคตถือว่าได้เปรียบกว่าแพลตฟอร์มอื่นมากๆ แนะนำให้อ่านรีวิวเกี่ยวกับ การใช้ WP8 เพิ่มเติมที่อื่นครับ
- ใช้งานง่าย : เป็นผลพวงมาจากระบบปฏิบัติการ และแอพฯส่วนใหญ่ ทำตามสไตล์ของ WP8 ที่ ง่าย+ลื่น+เร็ว เรียนรู้ง่าย ต่อเข้าคอมเป็นไดรฟ์นึง จัดการง่ายไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรบนคอมเพิ่มเติม
- แอพเสริมของโนเกีย : ทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ Nokia Map, Nokia City Lens ไว้สู้คู่แข่งที่เป็น WP8 ด้วยกันแทบขาดลอย
- กล้องหลัก : สำหรับผมขอเทียบกับ Xperia S ที่ใช้อยู่ โดยรวมผมขอให้ “เสมอกัน” ครับ ไม่แพ้ไม่ชนะ เพราะต่างทำดีทั้งคู่ในแต่ละสถานการณ์ แต่แอบเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปภาพบุคคลในเวลากลางคืน(ถ่ายแต่วิวกลางคืน) เพราะเหมือนว่า Lumia จะชนะแน่นอน ในเรื่องการถ่ายรูปกลางคืนครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ คุณก็ตัดสินใจเองจากรูปที่เห็นด้านบน 😀
- กล้องหน้า : ผมยกให้ Xperia S ครับ และสาวๆหลายๆคนก็ลงความเห็นเดียวกัน อิอิ ^^
- วิดีโอ : ทำได้น่าทึ่งมากครับ ป้องกันการสั่นได้ดีระดับนึง ส่วนเรื่องการให้สีดูสดกว่า(บางคนชอบ/ไม่ชอบ)
- คุ้มราคา : เปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่แล้วในราคา 21,500 บาท ปัจจุบันเหลือเพียง 8,900 บาทโดย ผมเห็นว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มาทั้งหมด
สุดท้ายนี้ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านได้อ่านบทความนี้แล้วก็คงจะช่วยในเรื่องการตัดสินใจซื้อ Nokia Lumia 920 ไม่มากก็น้อยนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากให้ไป “ลองสัมผัสด้วยตัวเอง” ดูมากกว่าครับ เพราะสุดท้ายแล้ว ตัวคุณเองเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจและใช้งานมันจริงๆ