** เวลามักผ่านไปไวเสมอ **
หลายๆคนมักพูดอย่างนั้นหลังจากที่ผมได้ รีวิวตัวเองถึง 4 ปีที่ผ่านมาในมหาวิทยาลัยฯ
ว่าเป็นอย่างไรแล้ว มันก็ถึงอีกช่วงชีวิตนึงที่เราต้องเตรียมพบเจอกัน
[title style=”bold-center” text=”4 มิถุนายน 2556″]ชีวิตพนักงานประจำเริ่มขึ้นกับตัวผม ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งนามว่า Appsynth สัญชาติอังกฤษ แต่มาเปิดบริษัทในไทย
บริษัท Appsynth คร่าวๆคือ เป็น เอเจนซี่บริการเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นบนมือถือเต็มรูปแบบ
เช่น รับทำแอพพลิเคชันบนมือถือ ทั้ง iOS, Android และ Windows Phone (เน้นสอง OS แรก)
ผมสมัครในตำแหน่งของ Windows Phone Developer เรียกแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ คนทำแอพบน Windows Phone แล่ะ
แต่ด้วยความที่พอมีสกิลของการออกแบบอยู่ด้วยหลังๆจึงเป็น UX / UI Designer ไปในตัว เรียกแบบง่ายๆก็ ดีไซน์เนอร์ละกันครับ
[row][col span=”6″ span__sm=”12″][/col] [col span=”6″ span__sm=”12″][/col][/row] [title style=”bold-center” text=”How to work in Appsynth”]ผมขอเปรียบเทียบง่ายๆกับคนทั่วไปหน่อยคือ การที่เข้ามาทำงานที่ไหนสักที่นึง
ก็เหมือนกับเราไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เรามองด้วยภายนอก
อาจจะรู้นิสัยเธอนิดๆหน่อยๆจากคนที่เคยคบเธอ (คนที่ทำงานที่นั่น)
แต่สุดท้ายแล้ว การที่เราเลือกเธอ มันก็คือการตัดสินใจของเรา
ช่วงแรกๆ ต่างคนก็ต่างไม่รู้จักกันมาก่อน ก็ต้องมีช่วงที่ “ปรับตัวเข้าหากัน” (ระบบการทำงาน/วัฒนธรรมองค์กร)
เธอแนะนำผมครับว่าเธอชื่อ Agile
(ที่ทำงานใช้ระบบการทำงาน Software Engineering แบบ Agile ) เธอทำให้ผมรู้สึกดีครับ
รู้สึกว่าเธอคือคนในฝัน (งานในอุดมคติที่อยากให้เป็น) เธอสอนผมทุกอย่าง
สอนการทำงานที่เป็นระบบมากขึ้น จนผมรู้สึกว่าผมได้พัฒนาตัวเอง
การพัฒนาแอพ (หนักเรื่องดีไซน์และการใช้งาน) การทำงานเป็นทีม
การใช้เครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆของการทำงานในด้านนี้
พอไปช่วงกลางปี ผมก็รู้สึกว่า เอ๊ะ… เธอ (Agile) ดีจริงหรือเปล่า? ช่วงนั้นที่ทำงานก็มีการจัดอบรมการทำงานอีกครั้ง เนื่องจากคนทำงานเริ่มเยอะ
แล้วกลิ่นอายของระบบการทำงานเดิมๆเริ่มจางหาย แต่แล้ว การอบรมในครั้งนั้น ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำถึงความมั่นใจว่า “ผมเลือกคุณไม่ผิดจริงๆ” #อั้ยยยย
อบรมในครั้งนั้นมาเน้นย้ำว่า นิสัยลึกๆของเธอเป็นอย่างไร เธอชอบอะไร (แก่นของ Agile คืออะไร แล้วมีกี่ประเภท ที่เราใช้อยู่คือประเภทไหน)
เรียกได้ว่า “ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ” จริงๆครับ สำหรับ Agile
[title style=”bold-center” text=”Environment”]บรรยากาศการทำงาน ที่นี่เน้นสบายๆ ไม่ซีเรียส ขอดูที่ผลงานคุณเป็นหลัก แต่งตัวยังไงก็ได้สบายๆ แค่อย่าน่าเกลียดเกินไปแบบขาสั้นลากแตะ #ฮา
ซึ่งวัฒนธรรมแบบนี้มักจะมีในบริษัทไอทีต่างประเทศอยู่แล้ว เช่นพวก กูเกิ้ล เฟซบุ๊ค
เข้างานก็ สิบโมงชิลๆ เลิกหกครึ่งโดยประมาณ ก็มีนั่งเพลินบ้าง แล้วแต่อารมณ์ มีอาหาร+เบียร์เลี้ยงทุกเดือน มีเลี้ยงกลางวันทุกๆ สองอาทิตย์
[row][col span=”6″ span__sm=”12″][/col] [col span=”6″ span__sm=”12″][/col][/row]ส่วนรูปนี้ก็คือมุมทำงานของผมที่นั่งติดหน้าต่าง
[title style=”bold-center” text=”4 มิถุนายน 2557″]ก็เรียกได้ว่า เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก #พูดอีกละ มันครบปีแล้วหรอเนี้ย ที่ทำงานที่นี่ #สบายเหมือนไม่ได้ทำงาน #lol เราก็มานั่งรีวิวตัวเองว่า 1 ปี ชีวิตเราเป็นไงบ้าง?
“พนักงานประจำ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด”
ประโยคนี้ อาจใช้ได้แค่สำหรับบางคน เพราะก็ยังเห็นคนจำนวนมากที่ยังรู้สึกว่า การเป็นพนักงานประจำนี่มันโหดร้ายจุงเบย แต่สำหรับผมก็ให้ประโยคนี้กับตัวเองได้ จากการรีวิว 1 ปีการทำงานตัวเองที่ผ่านมา เพราะ
- ได้ความรู้และประสบการณ์การทำงานในสายงานของตัวเองแบบที่ตัวเองคาดหวังว่าจะได้
- ได้รู้จักคนที่มีความคิดเหมือนๆกัน พูดภาษาเดียวกัน
- ได้รู้จักคนเก่งๆในวงการแอพฯมือถือ
- ได้ฝึกทักษะหลายอย่างที่เราอยากลอง และที่ทำงานให้การสนับสนุน
- คนร่วมงานดีมาก
สรุป
สุดท้าย ปีแรกของการเป็นพนักงานประจำของผมก็นับว่าผ่านไปอย่างสวยงาม และได้ทำตาม “เป้าหมายชีวิต” ของตัวเองอยู่
อย่าลืมเตือนตัวเองว่า ที่เราทำงานอยู่ทุกวันนี้ มันเป็นเส้นทางของการไปสู่เป้าหมายในชีวิตที่เราตั้งไว้อยู่รึเปล่า?
ถ้าเป็นอยู่ก็จงทำต่อไป อย่าท้อ ส่วนถ้าเป็นอยู่และมีความสุขในการทำงานด้วย นั่นคือกำไรของคุณครับ