Traveling with family
ห่างหายไปนาน 1 เดือนเต็มๆ กับการท่องเที่ยวต่างประเทศ และเป็นครั้งแรกที่ท่องเที่ยวนานขนาดนี้ครับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่มา อเมริกาคนเดียวในฐานะ ลูกจ้าง ก็สนุกได้รสชาติดีมาเที่ยวอเมริกาครั้งที่ 2 นี้พิเศษกว่าครั้งแรกคือจุดประสงค์ที่ต่างกัน #คือมาเที่ยวจริงๆ และมาพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว[title text=”How we travel?” style=”bold_center”]เนื่องจากผมมี พี่สาวและพี่ชาย อยู่ที่อเมริกาอยู่แล้ว การเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวครั้งนี้จึงใช้วิธีการ เที่ยวด้วยตนเอง ไม่ได้ใช้ทัวร์พาเที่ยวแต่อย่างใดข้อดีของการเที่ยวด้วยตนเอง ทุกคนก็ทราบดีว่ามีข้อดีหลายๆอย่างเช่น- อยากเที่ยวที่ไหนก็ได้ตามใจเราต้องการ (เช่ารถยนต์เที่ยวได้)
- ทานอาหารที่เราอยากทาน พักที่เราอยากพัก
- เหนื่อยก็หยุดพัก เวลาไม่ต้องแน่นอนมากในแต่ละวัน
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะสามารถควบคุมได้
- ฯลฯ
รถยนต์ : ระยะทางใกล้ รอบๆรัฐหนึ่งๆ

เครื่องบิน : ระยะทางไกล ข้ามรัฐ


อเมริกาเป็นประเทศ #หรือทวีป ที่ใหญ่มากๆ เดือนเดียวก็ยังเที่ยวไม่ครบ เที่ยวไม่หมด
นี่ขนาดเร่งเต็มที่แล้ว ก็ยังมีอีกหลายๆที่ ที่ยังไม่ได้ไป #เหนื่อยซะก่อน #ฮ่าๆ
โดยรวมผมเห็นว่า เป็นประเทศที่ใหม่ ยังไม่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากเท่ายุโรป
บ้านเมืองสะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย ยกเว้นอาหารเท่านั้นที่อร่อยสู้ไทยไม่ได้ 5555
[title text=”Let’s Travel!” style=”bold_center”][row ][col span=”1/3″ ]แผนการเดินทางของครอบครัวผมมีทั้งหมดดังนี้
1 – 2 May : Chicago3 – 7 May : Las Vegas + Grand Canyon + Hoover Dam8 – 12 May : Chicago + Holland, Michigan13 – 16 May : Boston17 – 18 May : Washington D.C.19 – 21 May : New York City22 – 23 May : Niagara Falls24 – 25 May : Westport, Connecticut26 – 30 May : Chicago[/col] [col span=”2/3″ ]
ต่อไปนี้ก็จะเป็นการรีวิวแต่ละสถานที่ ที่ผมและครอบครัวได้ไปกันคร่าวๆนะครับ เริ่มตั้งแต่สถานที่ที่ไปถึงเลยคือ …
[title text=”Chicago” style=”center”]
Chicago เป็นเมืองใหญ่ที่ดูมีระเบียบ เรียบร้อย น่าอยู่ ให้ความรู้สึกเหมือน กทม. แต่ไม่มีรถติด เพราะเมืองเป็นตารางสี่เหลี่ยมทั้งเมือง
ทำให้ไปไหนมาไหน ก็จำง่าย แค่จำถนนที่ตัดกันก็ได้แล้ว ฟังแล้วรู้สึกน่าอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ไม่น่าอยู่ขึ้นมาทันทีคือ อากาศ ครับ
อากาศที่ Chicago แปรปรวนมากๆ อย่างเช่น เมื่อวานกับวันนี้ สามารถเป็น ฤดูหนาว(ต่ำกว่า10องศา)กับฤดูร้อน(ประมาณที่ไทย) ได้ทันที
ครอบครัวผมจะอยู่ที่นี่ซะส่วนใหญ่ เพราะจะมางานรับปริญญาพี่สาวด้วยครับ
[row ][col span=”1/3″ ]





ที่นี่ขึ้นชื่อในฉายาว่า Sin City ตั้งแต่สนามบินก็มีตู้คาสิโนให้เล่นแล้ว ยิ่งในเมืองไม่ต้องพูดถึง การพนันทุกรูปแบบ
ความสนุกสนานตามภาษาวัยรุ่น เที่ยวกลางคืนเพลินๆ ไปเรื่อย จึงไม่เหมาะที่จะมากับครอบครัวนะครับ #ฮา
[row ] [col span=”1/3″ ]






ใกล้ๆจาก Las Vegas สามารถขับรถไปที่ Grand Canyon Sky Walk ได้ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ระหว่างทางเข้าด้านนอก ดูไม่รู้เลยว่า ข้างในจะสวยอย่างที่เห็นในรูปคนอื่นๆที่ถ่ายมา
โดยเฉพาะทางถนนที่เข้าไปนั้นเป็นขรุขระเป็นลูกรังเหมือนถนนบ้านนอกที่ไทยเลยล่ะ ไม่น่าเชื่อว่าที่อเมริกาก็ยังมีถนนแบบนี้
[row ] [col span=”1/3″ ]



พอเที่ยว Grand Canyon แล้ว ใกล้ๆกันก็จะมีเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาอยู่นี่เองครับ
ของจริงสวยงามและยิ่งใหญ่มากๆ ทุกคนที่เคยดูหนัง Transformer น่าจะเคยเห็นฉากนี้อยู่ครับ
[title text=”Holland Michigan” style=”center”][row ] [col span=”1/2″ ]

หลังจากกลับมาจากแถว Las Vegas มาที่ Chicago แล้ว ก็พักผ่อนวันสองวันแล้วขับรถไปที่นี่เลยครับ
เมืองฮอลแลนด์ที่มีดอกทิวลิปมากมายสวยงาม หลากหลายชนิดครับ
[title text=”Boston” style=”center”]


จากนั้นนั่งเครื่องบินไปเที่ยวเมือง Boston เมืองแห่งการศึกษาจริงๆ บรรยากาศชวนให้เรียนหนังสือมากๆ ฮ่าๆ
ที่นี่ส่วนใหญ่ก็จะเที่ยวมหาลัยฯชื่อดังต่างๆครับ เช่น Harvard, MIT, Boston University, Boston College
[row ] [col span=”1/3″ ]



และแล้วก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาซะทีนะครับ เมืองนี้เงียบสงบมาก และไม่มีตึกสูงเลย
ถ้าให้เทียบกับที่ไทยคงจะเป็นย่านราชดำเนิน แต่เป็นราชดำเนินทั้งเมืองครับ ดูอบอุ่นน่าอยู่มากๆ
สถานที่สำคัญส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่ราชการครับ
[title text=”New York City” style=”center”]
ถัดมาใกล้ๆเมืองหลวง ก็จะเป็นเมืองยอดฮิตที่เหมือนว่าใครมาอเมริกา ก็อยากมาเมืองนี้
นั่นคือ เมือง New York ครับ ด้วยความที่จังหวะการไปนั้นไม่ค่อยดี อากาศแปรปรวน ฝนตกหนัก
แต่ก็ยังเที่ยวสนุกอยู่บ้างครับ


จากนิวยอร์ค เราเล่นสายโหดขับรถตรงขึ้นไปน้ำตก Niagara ที่เมือง Buffalo น้ำตกแบ่งเขตแดน
ระหว่างอเมริกากับแคนาดาอันมีชื่อเสียงแห่งนี้ โดยใช้เวลาขับรถนานถึง 7 ชั่วโมงครับ เหนื่อยกันเลยทีเดียว
น่าเสียดายที่ตอนแรกว่าจะไปพักที่ฝั่งแคนาดา แต่ครอบครัวผมทำวีซ่าไม่ทันครับ จึงอยู่ที่เมือง Buffalo เหมือนเดิม
แต่คิดไปคิดมาก็ดีแล้วครับ ที่ไม่ข้ามฝั่ง เพราะมันก็สวยเหมือนๆกัน แถมถ้าทำวีซ่าต้องเสียเงินมากถึงคนละ 75 เหรียญเลยทีเดียว
[row ] [col span=”1/3″ ]





เมืองนี้เหมือนเป็นเมืองผู้ดีอังกฤษครับ เป็นเมืองเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียง แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีฐานะ
ที่แวะเมืองนี้เนื่องด้วยพี่ชายของผมเคยมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกาเมื่อปี 2001 ครับ
จึงมาเยี่ยมโฮสของพี่ชายผมชั่วคราวครับ
[title text=”Conclusion” style=”bold_center”]- หลังจากจบทริปครอบครัวครั้งนี้ ได้รูปภาพไปทั้งหมด 20,000 กว่าภาพ วิดีโออีก 100 กว่าคลิป รวมแล้วประมาณ 124 GB เท่านั้นเองครับ *0*
- ผมอาจจะถ่ายทอดความรู้สึกของการท่องเที่ยวได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็นจริงๆครับ มีโอกาสก็ควรไปกัน
- การเที่ยวครั้งนี้ ทำให้ผมเห็นความสุขของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ อยากให้ทุกคนตระหนักถึงครอบครัวตัวเองไว้ครับ
- ผมแค่อยากเขียนบล็อกนี้ไว้เพื่อเป็นความทรงจำที่สำคัญช่วงหนึ่งของชีวิต ที่ได้เที่ยวต่างประเทศครบทั้ง 6 คนในครอบครัว ซึ่งเราต่างมีเวลาว่างไม่ตรงกันเสมอ เมื่อกลับมาอ่านบล็อกนี้ตอนแก่แล้วจะได้รู้สึกดีครับ ฮ่าๆ
- ขอบคุณสำหรับติดตามไดอารี่ของผมครับ