เนื่องจากผมได้รับพัฒนาเว็บไซต์ด้วย WordPress มาโดยตลอด มักจะมีคำถามที่ถามกันบ่อยมากคือใช้โฮสต์ไหนดี? เพราะนอกจากตัวเว็บที่เราทำแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญและเป็นเบื้องหลังของเว็บไซต์ คือ Web Hosting หรือโฮสต์ดี ๆ ที่ออกแบบมาสำหรับ WordPress โดยตรง หรือที่เรียกกันว่า WordPress Hosting เป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยรีดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้ดี

The Ultimate Managed Hosting Platform

และแน่นอน ตามหัวข้อนี้ ผมจะมารีวิวการใช้งาน WordPress Hosting ของ Cloudways กันว่า มันดีอย่างไรบ้าง ผมขอลิสต์เป็นข้อ ๆ ถึงประโยชน์ของมันละกันครับ

1. ปรับจูน Cloud ระดับโลกให้เหมาะกับ WordPress โดยเฉพาะ

Cloudways Server

Cloud Server ที่ Cloudways ให้เราเลือกใช้ มีดังนี้

  • DigitalOcean
  • linode
  • VULTR
  • aws
  • Google Cloud

ซึ่งโดยปกติ ถ้าเราติดต่อ Cloud provider ข้างบนโดยตรง เราจะได้ Server เปล่า ๆ มันจะต้องตั้งค่าด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งค่อนข้างยากมาก สำหรับคนที่ไม่ได้มีความรู้ด้านการตั้งค่า Server แต่ยังอยากใช้ Cloud

Cloudways จึงพัฒนาตัวบริการ Cloud Hosting ให้รองรับ WordPress โดยเฉพาะ เรียกว่า “Managed WordPress Hosting” ทำให้เราสามารถใช้ Cloud Server ที่ปรับแต่งสำหรับ WordPress ในราคาไม่ได้แพงมากและจ่ายตามจริง สามารถตั้งค่าทุกอย่างผ่านระบบ Control Panel ของ Cloudways ไปได้เลย ดังนั้น สิ่งที่ Cloudways ช่วยเราตรงนี้จะมี 4 อย่างหลัก ๆ คือ

  • ได้ความเสถียรสูง (เพราะเป็น Cloud Server เจ้าดัง ๆ ที่นิยม)
  • Cloud จะถูกปรับจูนให้โดยเฉพาะ ให้ทำงานกับ WordPress ได้อย่างลงตัว
  • ความปลอดภัยจากการ setup Hosting สำหรับ WordPress โดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้เว็บไซต์มีความปลอดภัยมากขึ้น
  • ทีม Support Cloudways ดูแลให้เราทุกอย่างเกี่ยวกับ Cloud เราจึงโฟกัสที่การพัฒนาตัวเว็บ WordPress อย่างเดียว

2. มี Caching ที่ดีเยี่ยม

Breeze by Cloudways

Cloudways มีปลํ๊กอินแคชของตัวเอง ชื่อ Breeze – WordPress Cache Plugin หมายความว่า ปลั๊กอินจะช่วยปรับจูนให้ Performance ของ WordPeress ทำงานได้ดีที่สุดบนโฮสต์ของเรา ที่สำคัญคือใช้งานง่ายครับ เมนูไม่เยอะ กดติ๊กไม่กี่อย่างครับ

3. มีระบบสร้าง Staging

สมมติเราต้องการแก้ไขเว็บไซต์ แต่ไม่อยากแก้ตัวเว็บจริงที่กำลังเปิดใช้งานอยู่ อาจด้วยเพราะว่ามีคนเข้าเว็บเราตลอดเวลา กลัวว่าจะเกิดปัญหาต่าง ๆ เราสามารถใช้ระบบ Staging ที่ Cloudways มีไว้ให้ ในการทดลองแก้ไขจนแน่ใจ ไม่เกิด Error หรือปลั๊กอินต่าง ๆ มี Conflict กัน แล้วค่อยอัพขึ้นเว็บไซต์จริงได้ครับ

4. จะมีหลาย Server ก็ได้ สร้าง WordPress กี่เว็บก็ได้ ด้วย One-click install

Cloudways WordPress staging

อันนี้ถือว่าสะดวกมาก ทั้งในระดับ Server ที่เราสามารถมี Cloud server กี่เจ้าได้ กี่เครื่องก็ได้ (ตามกำลังทรัพย์ที่เราจะสร้างขึ้นมา) จากนั้นในแต่ละ Cloud server เราก็สามารถสร้าง WordPress กี่เว็บก็ได้ เท่าที่ตัวสเปคของ Server นั้น ๆ จะรับไหว

5. มี SSL แบบฟรีให้เราใช้

SSL คือ การเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการรับ-ส่งข้อมูล ระหว่างฝั่ง Server ที่เก็บข้อมูล กับเว็บเบราเซอร์ของผู้ใช้งาน HTTPS

SSL มีหลายประเภททั้งแบบฟรี และเสียเงิน แต่ส่วนใหญ่ที่มากับโฮสติ้ง และให้เราใช้ได้ฟรี คือประเภท Let’s Encrypt (LE)

ข้อดีของการเปิดใช้งาน SSL คือ ช่วยให้เว็บไซต์เราปลอดภัยยิ่งขึ้น น่าเชื่อถือ เพราะเบราเซอร์เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่มี SSL ให้สังเกตที่ด้านหน้าชื่อโดเมน จะขึ้นว่า “Not Secured” “ไม่ปลอดภัย” เป็นสีแดง ๆ และยังส่งผลเสียต่ออันดับ SEO บนกูเกิลด้วยนะ

ซึ่ง Cloudways ก็มีปุ่มให้กด Install Let’s Encrypt SSL ได้แบบง่าย ๆ เป็นมาตรฐานเลยครับ

6. มีระบบ Backup แบบรายวัน

ถ้าในกรณีปกติ ที่เว็บไซต์ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ไม่ได้มีปัญหา แต่บ่อยครั้ง เว็บไซต์ที่ทำด้วย WordPress อาจจะมีการล่ม หรือเสียหาย ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ การมีไฟล์ Backup ช่วยให้เว็บไซต์ต้นฉบับยังคงอยู่

สาเหตุที่ทำให้เว็บไซต์​ WordPress เสียหาย พัง เข้าไม่ได้ มีไม่กี่สาเหตุ จากประสบการณ์ที่เคยเจอ เกิดจากการ Update Plugin, Theme, WordPress บางตัวอาจจะเข้ากันไม่ได้ หรือ เว็บไซต์โดน Hack ก็มีบ่อย ฉะนั้น การมีโฮสติ้งที่คอยสำรองเว็บไซต์ให้เรา ก็ค่อยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย

Cloudways มีบริการนี้ที่จะช่วยสำรองเป็นรายวันเลยครับ วันไหนมีปัญหา ก็เอาเวอร์ชั่นก่อนหน้าที่มีปัญหาได้เลยแค่คลิกเดียว ข้อมูลที่อัพเดตกันล่าสุด ก็จะยังอยู่ครบ

7. ทีมซัพพอร์ต 24 ชม. (จริง ๆ) และแก้ปัญหาได้ไว

เกือบทุกโฮสติ้งที่เคยเจอ ไม่ว่าจะโฮสต์ในไทยหรือต่างประเทศ ส่วนใหญ่เคลมว่า Support 24 ชม. แต่เอาเข้าจริง เวลาโพสตามใน Ticket ตอนมีปัญหา กลับต้องรอหลายชั่วโมง หรือ เป็นวันกว่าจะได้รับคำตอบ บางโฮสเร็ว บางโฮสช้า ก็ถมไป

พอผมได้มาลองใช้ Cloudways ถึงขั้นอึ้งในความ Support 24 ชั่วโมงจริง ๆ เพราะจะมีระบบ Live Chat รอไว้ที่หน้า Dashboard Cloudways ตลอดเวลา และทักไปทุกครั้ง ก็จะเจอคนจริง ๆ ทุกครั้งครับ จึงหมดห่วงเรื่องมีปัญหาต่าง ๆ จะอุ่นใจได้ว่า มีทีมงาน Support 24 ชั่วโมงจริง ๆ แน่นอนครับ

8. ย้ายเว็บครั้งแรกฟรี!

ข้อดีนี้ส่วนใหญ่ผมมักจะเห็นเฉพาะโฮสในไทย แต่นาน ๆ จะเห็นกับโฮสต่างประเทศครับ นี่จึงเป็นข้อดีที่น่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับคนที่อยากย้ายโฮสมาอยู่บน Cloud เจ้าดังต่าง ๆ ที่เสถียรมากขึ้นกับทีมจูน Cloud ดี ๆ อย่าง Cloudways ก็จะยิ่งช่วยให้การย้ายสมูทยิ่งขึ้น

ข้อเสีย

จากข้างบนจะเห็นว่ามีแต่ข้อดีไปหมด ละข้อเสียคืออะไร จากที่ผมได้ใช้งานจริง ข้อเสียที่นึกออกก็น่าจะมีแค่ 2 ข้อครับคือ

1. ภาษาอังกฤษเท่านั้น

ด้วยความที่เป็นผู้ให้บริการต่างประเทศ ดังนั้นทุกอย่างสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ​ และ Support ที่เราคุยด้วยส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกแถบอินเดียครับ ดังนั้น ถ้าใครภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงอาจจะสื่อสารลำบากนิดหน่อยเวลาเกิดปัญหาครับ แต่ถ้าก็แนะนำให้ฝึกและใช้วิธีเปิด Support ticket ก็ได้ครับ เขาจะช่วยเหลือให้อย่างดี

2. ราคาแพง

ด้วยความที่ราคาแพงเกือบเท่าตัว ถ้าเราไปใช้บริการ Cloud ข้างนอกโดยตรง ผมยกตัวอย่างเช่น แพคเกจเซิร์ฟเวอร์เท่ากัน ซื้อตรงที่ DigitalOcean ราคาเริ่มต้นอยู่ที่เดือนละ $5 แต่พอมาซื้อผ่านบริการของ Cloudways ที่แพคเกจเดียวกันของ DigitalOcean จะอยู่ที่ $10 เลยล่ะครับ ดังนั้น ถ้าเว็บเราใหญ่มาก ๆ มีผู้ใช้งานเยอะ ๆ และต้องการปรับจูนที่หนักหน่วงมากขึ้น อาจจะต้องจ้างโปรแกรมเมอร์ต่างหากและซื้อคลาวด์โดยตรงจะคุ้มค่ากว่าครับ

สรุป

โดยรวมแล้ว Cloudways เหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ในราคาที่ย่อมเยาว์ และไม่อยากปวดหัวกับการ setup/config Cloud เจ้าดัง ๆ ที่จะได้ประสิทธิภาพที่น่าเชื่อถือ มีคนคอยซับพอร์ต เวลาเกิดปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงลดปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากเซิร์ฟเวอร์ได้เยอะมาก เพื่อให้เราโฟกัสกับธุรกิจเว็บไซต์ของเรา

แพคเกจราคาของ Cloudways ที่ผมแนะนำ จะเป็น Cloud DigitalOcean เดือนละ $10 เป็นตัวเริ่มต้นครับผม

Facebook Comments