[one_half]
สวัสดีทุกท่าน หลังจากที่ได้ รีวิว Sushi Hiro แล้วได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม มาวันนี้ ผมจะพาไปร้านซูชิอีกร้านที่เด็ดไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือร้าน San Kyo Dai ครับ
ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 24 อยู่ใน 24th Avenue ครับ
[/one_half]
[one_half_last]
[/one_half_last]
[bra_center_title title=’Review’ subtitle=’San Kyo Dai’ top_margin=”]
หลังจากทราบพิกัดของความฟินแล้ว เราก็ลุยกันเลยครับ
การตกแต่งร้านก็เป็นสไตล์ญี่ปุ่นปกติทั่วไป เป็นห้องไม่ใหญ่มาก โต๊ะน้อยไปหน่อย ถ้าคนเยอะอาจจะรู้สึกอึดอัดได้
แต่ผมและเพื่อนไปกันในช่วงที่ร้านเพิ่งเปิดพอดี (11.30 น) จึงเป็นลูกค้ารายแรกของวันเลยครับ
ร้านนี้เหมาะสำหรับไป 1-4 คน จะกำลังสนุกครับ เยอะกว่านั้นอาจจะหาที่นั่งยากหน่อย ที่สำคัญโซนนั่งบาร์หน้าเชฟดีกว่าที่อื่นๆมากครับ
เริ่มเข้ามานั่งที่โต๊ะ ก็มีผ้าเย็นมาเสิร์ฟให้ด้วยครับ ตามปกติทั่วไปของร้านซูชิแบบพรีเมี่ยม
ผมและเพื่อนสั่งชุด Party Set A ไว้ครับ รายการแรกมาแล้ว นั่นคือ ไข่ตุ๋น จำนวน 4 ที่
บอกตรงๆว่าเพิ่งเคยกินไข่ตุ๋นแบบมีไข่ปลา #หรือไข่กุ้ง? โรยอยู่ด้านบนครับ ซึ่งมันก็แปลกๆอร่อยดีครับ เวลากินกับไข่ตุ๋น
จากนั้นก็มีซุปมิโสะมาให้ทุกคนครับ ผมรู้สึกว่า ซุปมิโสะที่นี่อร่อยกว่าที่อื่นๆ อาจเป็นเพราะเขาใส่ไข่มาด้วยอะครับ รสชาติมันเลยเปลี่ยนไป
เมนูถัดมาครับ ยังอยู่ใน Party Set A นั่นก็คือ Legacy Salada ครับ แปลกอีกแล้วตรงที่ใส่เจลลี่ด้วยครับ เพิ่งเคยกิน ฮ่าๆ เป็นสลัดสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ประกอบไปด้วยผักต่างๆ แป้งเกี๊ยวกรอบ และปลาดิบตกแต่งด้านหน้า ราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้าน แถมยังมีเยลลี่แอปเปิ้ล เยลลี่พอนซึ และงาขาวโรยหน้ามาด้วย
เมนูถัดมาครับ ของโหดมาแล้วว นั่นก็คือ San Maguro Nigiri ครับ ชุดนี้ผมและเพื่อนสั่งคนละชุดเลยครับ มี 3 คำนั่นก็คือ OTORO Chutoro และ Tenmi ครับ
โฟกัสความฟินอีกสักรูป โดยเฉพาะ Otoro ครับ กินแล้วลอยจริงๆ เนื้อละลายในปากมากๆครับ
ถัดมาเป็นเมนูใน Party Set A มาขั้นจังหวะหน่อยครับ โดยในชุด เราจะต้องเลือก Roll 2 ชนิดครับ ซึ่งผมและเพื่อนเลือก Salmon Roll กับ Hamachi Roll ครับ เมนูนี้คือ Salmon Roll ครับ
[one_half]
[/one_half]
[one_half_last]
[/one_half_last]
ถัดมาเป็นซูชิแซลมอน 3 สัญชาติครับ คือ Norway Salmon & Tasmanian Salmon & Loch Duart Salmon
ต่อไปเป็น Foie Gras ครับ เรียกได้ว่าคลุมข้าวแบบแทบจะไม่เห็นข้าวเลยจริงๆครับ สั่งมา 3 คำ เพื่อนๆผมทาน ก็บอกว่าฟินมากๆครับ
ถัดไปคือ Engawa 3 คำ และ Hirame 1 คำด้านหลังครับ ขอบอกเลยว่า Engawa ที่นี่คือ Engawa ที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาเลยครับ เนื้อมันจะไม่มันเกินไป ไม่นิ่มเละจนเกินไป พอให้มีความกรึบของเนื้ออยู่ครับ
ส่วนอันนี้คือ Hirame อันนี้ก็อร่อยมากๆครับ เนื้อมันจะออกเปรี้ยวหน่อยๆ แล้วก็กรึบๆคล้ายๆปลาหมึก แต่นุ่มกว่า อร่อยมากๆครับ
และแล้ว Hamachi Roll ที่อยู่ใน Party Set A ก็มาแล้วครับ ผมว่าอร่อยสู้ Salmon Roll ไม่ได้นะ ทั้งๆที่เนื้อฮามาจิจะอร่อยกว่า
ตามมาด้วยซูชิ 20 คำ ใน Party Set A ครับ มี เอนกาวะ ปลาไหล ฮามาจิ แซลมอน และ อาคามิ ตามลำดับครับ
จากนั้นก็ยังฟินไม่พอกับ โอโทโร่ครับ ขอสั่งอีกสัก 2 คำ อิอิ
ด้านหลังจะเป็น เนื้อมัสซึซากะ 2 คำ แล้วก็ หอยเม่น 1 คำครับ ซึ่งผมรู้สึกว่า เนื้อมัสซึซากะที่นี่ให้บางไปครับ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ เลยรู้สึกกินแล้วไม่ฟินเท่าไหร่ ไม่ค่อยแนะนำให้สั่งครับ อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่
ส่วนชิ้นสุดท้ายคือไข่หอยเม่น Uni นั่นเองครับ
ปิดท้ายเมนูฟินด้วย ซูชิปลาไหลครับ แต่ไม่ใช่ปลาไหลธรรมดา แต่เป็น ปลาไหลทะเล ครับ ชิ้นใหญ่มากกกกก ความรู้สึกเวลากินคือ เนื้อมันจะแน่นกว่าปลาไหลธรรมดา ทำให้รู้สึกถึงเนื้อมากกว่าครับ
[one_third]
และแล้วก็มาถึงช่วงที่เราไม่ค่อยอยากให้ถึงกันครับ นั่นก็คือช่วงชำระเงิน …
12,248 บาท
[/one_third]
[two_thirds_last]
[/two_thirds_last]
[bra_center_title title=’Rating & Conclusion’ subtitle=’San Kyo Dai’ top_margin=”]
[bra_graph_container]
[bra_graph Title=’ความอร่อย’ Percent=’99’]
[bra_graph Title=’ความสดของปลา’ Percent=’99’]
[bra_graph Title=’คุ้มค่าราคา’ Percent=’60’]
[bra_graph Title=’สถานที่’ Percent=’85’]
[bra_graph Title=’การบริการ’ Percent=’95’]
[/bra_graph_container]
Conclusion
[bra_dropcaps style=’dropcap2′]ส[/bra_dropcaps]รุปแล้ว เรื่องความอร่อย ความสดผมให้คะแนนพอๆกับ Sushi Hiro เลยครับ พอปลาสด มันก็ทำให้ฟินได้ง่ายๆ แต่ที่ต่างกันจะเป็นเรื่องราคาที่ San Kyo Dai นี้ราคาแพงมากกกกกก ถ้าสังเกตดีๆ ราคาจะเท่าๆกับพวก Sushi Hiro บ้างบางเมนู แต่ทำให้แพงเพราะราคานี้ของ San Kyo Dai ยังไม่ได้รวม +10% ค่าบริการ +7% ค่าภาษี เลยครับ ซึ่งจากรูปใบเสร็จจะเห็นว่า กินจริงๆหมื่นต้นๆ แต่พอโดน +10% +7% ไปนี่แทบร้องไห้กันเลยทีเดียว ส่วน -15% นั่นเป็นเพราะใช้เงินสดชำระครับ แต่ก็ลดเฉพาะเมนูที่ไม่ได้อยู่ในโปรโมชั่น (แต่สุดท้าย -15% ก้ยังสู้ +10% +7% ไม่ได้ T^T)
ความคุ้มค่าของร้านนี้ผมให้น้อยเพราะเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แต่ถ้าจะให้คุ้มค่ากว่านี้ คงยกให้โปรโมชั่นปัจจุบันของทางร้าน (ถึงสิ้นเดือน พย. 2557 นี้) นั่นก็คือ โปรบุฟเฟ่ต์ 2,999++ ที่จัดเฉพาะ จันทร์-ศุกร์ จำนวน 10 ที่นั่งต่อวัน #ซึ่งตอนนี้คิวเต็มหมดแล้ว เพราะโปรนี้คุณจะกิน Otoro จนฟินลืมเลยล่ะครับ ฮ่าๆ ส่วนโปรโมชั่นอื่นๆก็คอยติดตามใน แฟนเพจของร้านครับ
การบริการ ดีกว่าที่อื่นๆ อาจเป็นเพราะร้านที่มีขนาดเล็ก ทำให้บริการอย่างทั่วถึง แม้แขกจะเต็มร้าน ก็ยังบริการได้ทันและรวดเร็วทันใจครับ